#เรื่องสร้างพระพุทธรูป เริ่มสร้างพระพุทธรูปตั้งแต่เมื่ือไหร่?
สร้างพระพุทธรูปครั้งแรกที่ไหน?
แล้วจะเหมือน พระพักตร์พระองค์จริงหรือ?
( #เกร็ดความรู้ )
ก่อนอื่นต้อง กล่าวไปถึงสมัยที่ในช่วงระยะแรกหลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว
พุทธศาสนิกชนก็ได้นำเอา ดิน น้ำ และใบโพธิ์จากสังเวชนียสถาน ๔ แห่งคือ
สถานที่ประสูติ (ลุมพินีวัน) ตรัสรู้ (พุทธคยา)
ปฐมเทศนา (พาราณสี)
และ ปรินิพพาน (กุสินารา) เก็บมาไว้เพื่อบูชาคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ต่อมามีการสร้างรูปอื่นที่เป็นสัญลักษณ์เพื่อระลึกถึงพระพุทธคุณ
ของพระพุทธเจ้าเช่น ทำดวงตราสัญลักษณ์ประจำสถานที่ต่างๆ ขึ้น ด้วยดินเผาหรือแผ่นเงิน
เช่นที่เมืองกบิลพัสดุ์สร้างตราดอกบัว หมายถึงมีสิ่งบริสุทธิ์เกิดขึ้น และตราม้า หมายถึงม้ากัณฐกะ
ที่เมืองพาราณสีสร้างตราธรรมจักรมีรูปกวางหมอบอันหมายถึงการแสดงธรรมจักร
และพระเจ้าอโศกมหาราชได้ทรงสร้างเสาหินอโศกไว้ในสถานที่ประสูติ เป็นต้น
ซึ้งในช่วงแรกนั้น
ยังไม่มีการจัดสร้างองค์พระพุทธรูปแต่อย่างใด
ต่อมาจากหลักฐานทางศิลปกรรมที่ได้มีการศึกษาค้นคว้ามานั้น
เรื่องของการสร้างรูปเคารพของพระพุทธเจ้าที่เป็นรูปมนุษย์นั้น
ได้มีปรากฏเป็นครั้งแรกในศิลปะอินเดีย สมัยคันธารราฐ
ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๖ - ๗
หลังจากที่พระพุทธองค์เสด็จสู่ปรินิพพานแล้วประมาณ ๗๐๐ ปี
โดยปรากฏหลักฐานว่า ที่พอจะสรุปได้ว่า
ในอินเดียโบราณสมัยก่อนหน้านั้น ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๓ - ๖
ในสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช ยังไม่มีการสร้างรูปเคารพของพระพุทธเจ้า
ในรูปที่เป็นมนุษย์ แต่จะใช้รูปที่เป็นสัญลักษณ์แทน
(หมายถึง ยังไม่มีการ ใช้เป็นรูปมนุษย์จริง
แต่ใช้เป็นสัญลักษณ์แบบอื่นๆ ขึ้นมาแทน)
โดยเฉพาะพุทธประวัติที่ปรากฏอยู่ตามศาสนสถาน
เช่น ที่สถูปสาญจีและตามเจติยสถานต่างๆ หากเป็นรูปตอนประสูติจะแสดงด้วยรูปพระนางสิริมหามายาทรงยืนเหนี่ยว กิ่งไม้ รูปตอนตรัสรู้แสดงด้วยต้นโพธิ์ และบัลลังก์
และรูปตอนปฐมเทศนาแสดงด้วยธรรมจักรกับกวางหมอบ
แสดงให้เห็นว่า ยังไม่มีประเพณีการสร้างพระพุทธรูป หรืออาจยังเป็นข้อห้ามอยู่
สมัยเริ่มสร้างพระพุทธรูป
หลักฐานการสร้างพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในอินเดียปรากฏขึ้นราวๆ
พุทธศตวรรษที่ ๗ โดยเกิดขึ้นในสมัยของพระเจ้ากนิษกะ
แห่งราชวงศ์กุษาณะ
สถานที่ค้นพบพระพุทธรูป ครั้งแรก
ที่แคว้นคันธารราฐ ราวๆ พ.ศ. ๖๖๓ - ๗๐๕
ทั้งนี้เป็นผลมาจากการที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช กษัตริย์แห่งอาณาจักรมาซิโดเนียทางตอนเหนือของประเทศกรีซ
ได้สร้างจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ ครอบคลุมคาบสมุทรบอลข่าน อียิปต์ ตุรกี และเปอร์เซีย จนมาถึงดินแดนภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย ที่แคว้นคันธารราฐ ในพุทธศตวรรษที่ ๓
คติการสร้างรูปเคารพเป็นพระพุทธรูปจึงน่าจะได้แรงบันดาลใจจากอิทธิพล
ของชาวกรีก ที่แพร่หลายตั้งแต่ในครั้งนั้น
และนำเอาคติ ความเชื่อต่างๆ เข้ามาผสมผสานกับความเชื่อเดิมของชาวพื้นเมือง
ส่งผลให้นำความนิยม ในการสร้างรูปเคารพเทพเจ้าของชาวกรีก
มา สร้างเป็นพระพุทธรูปขึ้น ดังนั้น พระพุทธรูป สมัยคันธารราฐ ซึ่งเป็นสมัยแรกสุดที่มีการสร้างพระพุทธรูป
จึงมีลักษณะเป็นแบบชาวกรีกค่อนข้างมาก
ทั้งรูปร่าง หน้าตา และลักษณะการครองจีวร
การสร้างพระพุทธรูปไม่ใช่การสร้างรูปเหมือนของพระพุทธเจ้า
แต่เป็นสัญลักษณ์ แทนพระพุทธองค์ ดังนั้น ลักษณะของพระพุทธรูปในแต่ละสกุลช่าง และแต่ละสมัยจึงแตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม
ถึงแม้ว่าพระพุทธรูปจะมีรูปแบบที่แตกต่างกัน
แต่ในการสร้างพระพุทธรูป จะมีสัญลักษณ์สำคัญ
ที่บ่งบอกว่า รูปนั้นเป็นพระพุทธองค์ เรียกว่า มหาปุริสลักษณะ
หรือลักษณะของมหาบุรุษรวม ๓๒ ประการ เช่น มีขนระหว่างคิ้ว
เรียกว่า อุณาโลม
มีส่วนบนของศีรษะนูนสูงขึ้นคล้ายสวมมงกุฎ
เรียกว่า อุณหิส หรือ อุษณีษะ หรือพระเกตุมาลา นอกจากนี้
ยังมีพระรัศมีที่เปล่งออกมาจากพระเศียรของ พระพุทธรูป
ทำเป็นตุ่มกลมคล้ายดอกบัวตูม หรือชูสูงขึ้นคล้ายเปลวไฟ
เรื่องวัสดุที่ใช้สร้างพระพุทธรูป
วัสดุที่ใช้ในการสร้างพระพุทธรูปในระยะแรกของอินเดีย
เช่น ในสมัยคันธารราฐ ได้แก่ ศิลา โดยนำมาสลักเป็นภาพเล่าเรื่อง
ทั้งงานประติมากรรมนูนสูง นูนต่ำ และลอยตัว
ในระยะต่อมา จึงมีการสร้างพระพุทธรูปโดยการหล่อด้วยสำริด
โดยเฉพาะในอินเดีย ภาคใต้ เช่น ในสมัยอมราวดี
** อ้างอิงจาก หนังสือสารานุกรมไทย สำหรับเยาชน **
ส่วน พระพุทธรูป ปางต่างๆ ที่มีปรากฎอยู่นั้น มีทั้งหมดอยู่ ๔๐ ปาง ดังนี้
พระพุทธรูป ๔๐ ปาง ที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ทรงกำหนดไว้ และถือเป็นต้นแบบให้มีการสร้างเพิ่มเติมต่อๆ มา ประกอบด้วยปางต่างๆ ดังนี้ คือ
๑. ปางทุกกรกิริยา
๒. ปางรับมธุปายาส
๓. ปางลอยถาด
๔. ปางทรงรับหญ้าคา
๕. ปางมารวิชัย
๖. ปางสมาธิ
๗. ปางถวายเนตร
๘. ปางจงกรมแก้ว
๙. ปางประสานบาตร
๑๐. ปางฉันสมอ
๑๑. ปางลีลา
๑๒. ปางประทานเอหิภิกษุอุปสมบท
๑๓. ปางปลงกรรมฐาน
๑๔. ปางห้ามสมุทร
๑๕. ปางอุ้มบาตร
๑๖. ปางภุตตกิจ
๑๗. ปางพระเกตุธาตุ
๑๘. ปางเสด็จลงเรือขนาน
๑๙. ปางห้ามญาติ
๒๐. ปางพระป่าเลไลยก์
๒๑. ปางห้ามพระแก่นจันทน์
๒๒. ปางนาคาวโลก
๒๓. ปางปลงพระชนม์
๒๔. ปางรับอุทกัง
๒๕. ปางพระสรงน้ำ
๒๖.ปางยืน
๒๗. ปางคันธารราฐ
๒๘. ปางพระรำพึง
๒๙. ปางสมาธิเพชร
๓๐. ปางแสดงชราธรรม
๓๑. ปางประดิษฐานพระพุทธบาท
๓๒. ปางสำแดงโอฬาริกนิมิต
๓๓. ปางรับผลมะม่วง
๓๔. ปางขับพระวักกลิ
๓๕. ปางไสยา
๓๖. ปางฉันมธุปายาส
๓๗. ปางห้ามมาร
๓๘. ปางสนเข็ม
๓๙. ปางทรงตั้งพระอัครสาวก
๔๐. ปางเปิดโลก
ซึ่งโดย ส่วนใหญ่ เราจะเห็นปางสมาธิ ปางมารวิชัย (ปางชนะมาร) ปางอุ้มบาตร ปางนาคปรก
และ ปางไสยาส อยู่บ่อยครั้ง ส่วนปางอื่นๆ ค่อนข้างยากแล้วที่จะได้พบเห็น
ซึ่งท่านสามารถชมพระพุทธรูปแบบต่างๆ จากทางศูนย์จัดส่งพระไตรปิฎกได้ที่
http://www.ตู้พระไตรปิฎก.com/MONK.html
ความสำคัญของพระพุทธรูป กับ ชาวพุทธ มีความสัมพันธ์อย่างไร
: พระพุทธรูปเป็นองค์แทนพระพุทธเจ้า
แม้จะเกิดหลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปนานแล้ว
ไม่เห็นเคยเห็นพระพุทธเจ้าขณะที่ทรงมีชีวิตอยู่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า
พระองค์มีรูปร่างหน้าตาแท้จริงอย่างไรหรือก็ได้เพียงเฉพาะข้อความในหนังสือพุทธประวัติในพระไตรปิฎกอรรถกถา เท่านั้น
แต่ชาวพุทธทุกคนศรัทธาเชื่อมั่นในพระพุทธรูปว่า
เป็นตัวแทนของพระพุทธองค์แม้จะเป็นเพียงวัตถุ
ไม่มีชีวิตจิตใจ แต่มีความศักดิ์สิทธิ์และน่าเคารพกราบไหว้เหมือนกับพระพุทธเจ้าเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นพุทธนิมิตรหมาย ที่ดี
ให้รำลึกถึงการทำความดี ทำจิตใจให้สงบ ทำจิตให้ผ่องใส
ไม่เบียดเบียนสิ่งต่างๆ
เพื่อเป็นบันใดขั้นต้น ที่จะนำพาจิตใจของมนุษย์ และพุทธศาสนิกชน ไปสู่พระนิพพาน
เป็นบั้นปลาย
......................................................................
พระปางสมาธิ ตามแบบพุทธลักษณะโบราณ คันธาระ
หน้าตัก 7 นิ้ว
ฐาน 9 นิ้ว ความสูง 11.5 นิ้ว ลึก 5 นิ้ว
งานต้นแบบจาก #ช่างสิบหมู่กรมศิลปากรณ์
#พระปางสมาธิ องค์น้ำตาลเข้ม แร่เขาอึมครึม จ.กาญจนบุรี / 4500.-
http://www.trilakbooks.com/product/2034718/พระพุทธรูปปางสมาธิ-หน้าตัก7นิ้ว-เนื้อแร่เขาอึมครึม.html
#พระปางสมาธิ องค์ดำ แร่นิล จ.กาญจนบุรี / 4500.-
http://www.trilakbooks.com/product/2015096/พระพุทธรูปปางสมาธิ-แร่เนื้อนิล-4500บาท.html
#พระปางสมาธิ องค์ขาว เนื้อเลซินขาวด้าน / 1990.-
http://www.trilakbooks.com/product/1911472/พระพุทธรูปปางสมาธิ-หน้าตัก7นิ้ว-ฐานองค์พระ-กว้าง10นิ้ว.html
ดำเนินการจัดส่งทั่วประเทศ
📱สามารถโทร.สอบถามรายละเอียดอื่นๆได้ที่
086-461-8505, 02-482-7358, 087-696-7771
สอบถามรายละเอียด/สั่งซื้อได้ที่
👨🏻💻 #LINE : @trilakbooks
หรือกดที่ ลิงค์ add Line ด้านล่างได้เลยครับ
https://line.me/R/ti/p/%40trilakbooks
--- --- --- --- --- --- ---
ศูนย์ฯตั้งอยู่ที่พุทธมณฑลสายสี่
ฝั่งเดียวกันกับพุทธมณฑล(องค์พระยืน)
ติดกับวัดญาณเวศกวัน ครับ
แผนที่สำหรับเดินทาง Google maps🚙
https://goo.gl/maps/Bym61zuguLE2
|